top of page

มนัญญา นำทีมรัฐ-เอกชน เยือน สปป.ลาว MOU ด้านเกษตร

มนัญญา นำคณะรัฐ-เอกชน เยือน สปป.ลาว กระชับความสัมพันธ์เดินหน้าทำ MOU ความร่วมมือด้านการเกษตร เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ หนุนส่งออกสินค้าเกษตรโต 6 แสนล้านบาท


วันที่ 25 มกราคม 2566 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยก่อนนำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และภาคเอกชนเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ระหว่างวันที่ 25-28 มกราคม 2566 ว่า


การเดินทางครั้งนี้เพื่อหารือความร่วมมือด้านการเกษตร ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว



การเดินทางครั้งนี้เป็นโอกาสดีของเกษตรกร และผู้ส่งออกของไทยที่ได้ร่วมเดินทางด้วย ที่จะได้รับทราบปัญหาที่ด่านของชายแดนลาว เพื่อนำมาแก้ปัญหาการแออัดที่ด่านไทย ลดความล่าช้าในการส่งออก ทั้งนี้ จะหารือในประเด็นที่สำคัญ อาทิ ระบบโลจิสติกส์ การอำนวยความสะดวกทางการค้า ทั้งทางบกและทางอากาศ การพัฒนาความร่วมมือด้านสุขอนามัยพืชไทย-ลาว เพื่อป้องกันโรคและศัตรูพืชในสินค้าเกษตรที่สำคัญ


โดยมีเป้าหมายจัดตั้งคณะทำงานร่วมไทย-ลาว (Working Group) ด้านวิชาการเกษตรและกักกันพืช ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน อีกทั้งจะมีการหารือในเรื่องการนำเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตรไปขยายผลในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซ้อน-ห้วยซั้ว ใน สปป.ลาว อีกด้วย


โดยเชื่อว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ทั้ง 2 ประเทศ ได้รับประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เส้นทางรถไฟไทย-ลาว-จีน ที่ไทยมองว่า เป็นเส้นทางหุ้นส่วนสำคัญทางเศรษฐกิจ ที่จะขยายโอกาสให้สินค้าจากไทยส่งออกไปยังจีนได้มากขึ้น ดังนั้น เราจึงต้องทำงานร่วมกัน ในการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี


“ไทย-สปป.ลาว มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาอย่างยาวนาน ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยยังไม่สามารถส่งสินค้าเกษตรไปยังประเทศจีนได้โดยตรง ต้องผ่าน สปป.ลาวก่อน ดังนั้นหากมีอุปสรรคติดขัดในจุดนี้จะส่งผลกระทบกับเกษตรกรไทยอย่างมาก ซึ่งไม่ได้มองว่า สปป.ลาวเป็นทางผ่าน แต่มองว่าเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่จะขยายสินค้าจากไทยไปยังจีน”


การเดินทางครั้งนี้ ตนมีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ รัฐมนตรีกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ของ สปป.ลาว อีกด้วย เพื่อเปิดโอกาสหารือโครงการร่วมกันระหว่างกรมวิชาการเกษตรและกรมปลูกฝังของลาว ซึ่งจะมีความร่วมมือด้านมาตรการสุขอนามัยพืช การอำนวยความสะดวกทางการค้า การจัดตั้งคณะทำงานร่วมไทย-ลาว (Working Group) ด้านวิชาการเกษตรและการกักกันพืช โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้แก่ โครงการศูนย์พัฒนาและบริการกสิกรรมแขวงสะหวันนะเขต โครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซ้อน-ห้วยซั้ว โดยการนำเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตรไปขยายผลสู่พื้นที่เป้าหมาย


สำหรับ สปป.ลาวเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 18 ของไทย โดยในปี 2565 ไทย-ลาว มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนรวมสินค้าทุกประเภท ทั้งหมดรวม 5.5 แสนล้านบาท และมีการคาดการณ์ว่าในปีนี้ ตัวเลขการส่งออกด่านชายแดนไทย-ลาว จะเพิ่มเป็น 6 แสนล้านบาท จากยอดการส่งออกสินค้าเกษตรที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50,000-60,000 ล้านบาท ซึ่งในปี 2562-2564 อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท


ด่านศุลกากรที่สำคัญอันดับ 1 คือ ด่านมุกดาหาร มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดน คิดเป็นมูลค่าการส่งออกและนำเข้าถึง 2.24 แสนล้านบาท รองลงมาคือ ด่านหนองคาย นครพนม และด่านเชียงของ ตามลำดับ


สำหรับภาพรวมสินค้าเกษตรในการค้าชายแดนและผ่านแดนทางบก ไทย-สปป. ลาว (ม.ค.-พ.ย. 2565) ในปี 2565 ไทย-ลาว มีมูลค่าการค้าชายแดน (สินค้าเกษตรที่มีใบรับรองสุขอนามัยพืช) ส่งออก ปริมาณรวม 1.1 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 3.5 พันล้านบาท


โดยมีสินค้าเกษตรส่งออกไปลาวที่สำคัญคือ ไม้และผลิตภัณฑ์ กากและของเหลือจากพืช อาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์ ข้าว ผลไม้สด เป็นต้น สำหรับการส่งออกผ่านแดนจากลาวไปจีน (สินค้าเกษตรที่มีใบรับรองสุขอนามัยพืช) มีปริมาณรวม 8.06 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 5.66 หมื่นล้านบาท ผ่านด่านตรวจพืชเชียงของ ด่านตรวจพืชนครพนม ด่านตรวจพืชมุกดาหาร และด่านตรวจพืชหนองคาย ตามลำดับ


ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

มนัญญา นำทีมรัฐ-เอกชน เยือน สปป.ลาว MOU ด้านเกษตร (prachachat.net)

ดู 1 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page