FTA ทางรอดนักลงทุน–ผู้ประกอบการ ศูนย์วิจัยกรุงไทยฯ แนะปรับตัวทันเกมโลก
วันที่ 25 กันยายน 2568 – ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงรอบใหม่จากสงครามการค้า หลังถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ในอัตรา 19% และยังมีความเสี่ยงที่สินค้าไทยบางประเภทจะถูกตีความว่าเป็นการสวมสิทธิ์ (Transshipment) ซึ่งอาจถูกจัดเก็บภาษีสูงถึง 40% สถานการณ์นี้จึงทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งกระจายตลาด ลดการพึ่งพาสหรัฐฯ ที่มีสัดส่วนสูงเกินไป
ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกรุงไทยระบุว่า อัตราการใช้สิทธิภายใต้ FTA ของผู้ประกอบการไทยยังถือว่าต่ำ โดยปี 2567 มีการใช้สิทธิในการ ส่งออกเพียง 84% และ นำเข้าเพียง 58% หากสามารถใช้สิทธิได้เต็ม 100% จะสร้างประโยชน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก
การส่งออก: ผู้ประกอบการไทยจะได้รับประโยชน์ด้านภาษีเพิ่ม 7 หมื่นล้านบาท จาก 3.1 แสนล้านบาท เป็น 3.8 แสนล้านบาท
การนำเข้า: ไทยจะประหยัดภาษีเพิ่ม 1.6 แสนล้านบาท จาก 2.1 แสนล้านบาท เป็น 3.7 แสนล้านบาท
นางสาวสุคนธ์ทิพย์ ชัยสายัณห์ นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัยกรุงไทย( Krungthai COMPASS)
นางสาวสุคนธ์ทิพย์ ชัยสายัณห์ นักวิเคราะห์ Krungthai COMPASS ระบุว่า ตลาดเอเชีย โดยเฉพาะ อาเซียน จีน อินเดีย และเกาหลีใต้ เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในการขยายการส่งออกของไทย
อัตราการเติบโตเฉลี่ยของการนำเข้าช่วงปี 2562–2567 อยู่ที่ 6.3% (อาเซียน), 4.6% (จีน), 8.0% (อินเดีย) และ 4.7% (เกาหลีใต้)
ไทยมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 1–4% เท่านั้น จึงยังมีพื้นที่ให้ขยายตัวได้อีกมาก
กลุ่มสินค้ามีโอกาสสูง ได้แก่
อาเซียน: น้ำตาล, เนื้อสัตว์ปีก, เนื้อสัตว์ปรุงแต่ง, ปลาปรุงแต่ง
จีน: ผลไม้สด–แช่เย็น–แช่แข็ง, น้ำตาล
อินเดีย: เครื่องเพชรพลอยและรูปพรรณ, รถจักรยานยนต์, ยางธรรมชาติ
เกาหลีใต้: ไขมันและน้ำมันพืช, โมดิไฟด์สตาร์ช, น้ำผลไม้
ศูนย์วิจัยกรุงไทยเสนอแนวทาง “F-T-A” เพื่อให้ผู้ประกอบการและภาครัฐใช้ประโยชน์จาก FTA ได้เต็มศักยภาพ
F (Flexibility) – ผู้ประกอบการต้องมีความยืดหยุ่น ปรับตัวตามความต้องการตลาด
T (Trade Facilitation) – ภาครัฐควรเร่งเจรจา FTA กับตลาดใหม่ พร้อมปฏิรูปกฎระเบียบ ลดอุปสรรคทางการค้า
A (Awareness) – เพิ่มการสื่อสารและให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า และขั้นตอนการขอใช้สิทธิ
ศูนย์วิจัยกรุงไทยย้ำว่า หากผู้ประกอบการไทยสามารถใช้สิทธิ FTA ได้เต็มที่ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ลดผลกระทบจากสงครามการค้า และสร้างโอกาสใหม่ๆ ในตลาดโลก โดยเฉพาะในเอเชียที่ยังมีพื้นที่เติบโตสูง ขณะที่ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันผลักดันระบบสนับสนุนและข้อมูลครบวงจร เพื่อให้ FTA กลายเป็น “กุญแจปลดล็อก” ศักยภาพเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
แหล่งที่มา Thaipbs