ข่าวสารธุรกิจ

รัฐบาลชะลอ “แจกเงินหมื่น” เตรียมเดินหน้าโครงการลงทุนแทน รับมือเศรษฐกิจโลกผันผวน

แพทองธารนั่งหัวโต๊ะประชุมบอร์ดเศรษฐกิจ 19 พ.ค. เคาะปรับแผนใช้งบกลาง ปี 68–69 มูลค่ากว่าแสนล้านบาท หลังมูดี้ส์ลดมุมมองไทยเป็นลบ

(19 พฤษภาคม 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ครั้งที่ 2/2568) เพื่อพิจารณามาตรการเร่งด่วนรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญความผันผวนรุนแรงในปัจจุบัน

ในการประชุมครั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ ได้ส่งหนังสือเชิญผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยงานรัฐเข้าร่วมประชุม เพื่อหารือถึงแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะการทบทวนแผนการใช้งบประมาณให้สอดคล้องกับรายได้ของรัฐที่ลดลง และปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศ เช่น การปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ภายใต้นโยบายใหม่ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยโดยตรง

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญในการประชุม คือการพิจารณาทบทวนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ภายใต้งบกลาง ปี 2568 โดยเฉพาะโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” หรือการแจกเงิน 10,000 บาท ที่เตรียมดำเนินการในระยะที่ 3–4 ซึ่งอาจถูกยกเลิก เพื่อปรับเปลี่ยนไปสู่การลงทุนในโครงการที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนแทน

ทั้งนี้ มีข้อเสนอให้นำงบประมาณวงเงิน 157,000 ล้านบาท ซึ่งเดิมจัดสรรไว้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2568 มาปรับใช้ในโครงการใหม่ที่เน้นการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจฐานราก เช่น การสนับสนุน SMEs การส่งเสริมการจ้างงาน และการลงทุนในโครงการผลิตภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกท่ามกลางวิกฤตการค้าโลก

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังเกิดขึ้นภายใต้แรงกดดันจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกอย่าง Moody’s ที่เพิ่งประกาศปรับมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยจาก "มีเสถียรภาพ" (Stable) เป็น “เชิงลบ” (Negative Outlook) สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการคลังและการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐที่อาจต่ำกว่าเป้าหมาย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณในปีงบประมาณ 2569 โดยให้เน้นโครงการที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจในอนาคต และเสริมสร้างศักยภาพภาคเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Economy) ให้แข็งแกร่งขึ้น

รัฐบาลยังเน้นย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มิใช่การชะลอความช่วยเหลือประชาชน แต่เป็นการจัดสรรทรัพยากรเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยใช้กลไกการลงทุนแทนการอัดฉีดเงินสด พร้อมเดินหน้าสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน

แจกเงิน แพทองธาร กระตุ้นเศรษฐกิจ ดิจิทัลวอลเล็ต  กระตุ้นเศรษฐกิจ