รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศ “ซัตดาวน์” (Government Shutdown) ส่งแรงสะเทือนทั่วโลก

ข่าวสารธุรกิจ

รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศ “ซัตดาวน์” (Government Shutdown) ส่งแรงสะเทือนทั่วโลก

รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศปิดทำการบางส่วน (Government Shutdown) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 หลังงบประมาณไม่ผ่าน คาดกระทบทั้งเจ้าหน้าที่หลายล้านคนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

รัฐบาลสหรัฐฯ ซัตดาวน์ (Government Shutdown) คืออะไร และทำไมถึงสำคัญต่อคนทั้งโลก?

รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่ภาวะ Government Shutdown อย่างเป็นทางการตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 1 ตุลาคม 2568 หลังจากที่สภาคองเกรสไม่สามารถหาข้อตกลงในการผ่านร่างงบประมาณได้ทันเวลา สถานการณ์นี้แม้จะเกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ แต่ครั้งนี้สร้างความกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและการเดินทางท่องเที่ยวอย่างกว้างขวาง
 

 ทำไมรัฐบาลสหรัฐฯ ถึงซัตดาวน์

สาเหตุหลักมาจาก ความขัดแย้งระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ที่ไม่สามารถหาข้อสรุปในการอนุมัติงบประมาณ โดยเฉพาะในประเด็น การลดขนาดหน่วยงานรัฐบาลกลาง, งบด้านสาธารณสุข, และงบสนับสนุนหน่วยงานสำคัญอย่าง CDC และ NIH

เมื่อร่างงบประมาณไม่ผ่านก่อนเส้นตาย 00:01 น. ของวันที่ 1 ตุลาคม หน่วยงานรัฐบาลกลางจำนวนมากจึงต้องหยุดการทำงานบางส่วน


ผลกระทบภายในสหรัฐฯ

  • เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางกว่า 4 ล้านคน ได้รับผลกระทบ ทั้งจากการถูกพักงาน (furlough) และการทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างชั่วคราว

  • สำนักงานอาหารและยา (FDA) ไม่สามารถตรวจสอบความปลอดภัยของอาหารได้ตามปกติ

  • อุทยานแห่งชาติ หลายแห่ง เช่น แกรนด์แคนยอน และเยลโลว์สโตน อาจปิดทำการ หรือเปิดโดยไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล

  • แม้กระนั้น บริการที่จำเป็น เช่น การควบคุมการบิน การแพทย์ฉุกเฉิน และการบังคับใช้กฎหมาย ยังคงดำเนินงานต่อ


 ผลกระทบต่อประเทศอื่น ๆ

แม้คุณจะไม่ได้อยู่ในสหรัฐฯ แต่ Government Shutdown ก็ส่งผลทางอ้อม เช่น

  • การเดินทางไปสหรัฐฯ อาจประสบปัญหา ความล่าช้าในสนามบิน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ

  • การท่องเที่ยวเสียหายหนัก เพราะ สถานที่สำคัญหลายแห่งอาจปิดบริการ

  • สมาคมการท่องเที่ยวสหรัฐฯ เคยประเมินว่า การซัตดาวน์อาจสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวถึง 140 ล้านดอลลาร์ต่อวัน


บทสรุป

Government Shutdown ของสหรัฐฯ ไม่ได้กระทบแค่คนอเมริกัน แต่ยังสะเทือนต่อเศรษฐกิจโลก การเดินทาง และการท่องเที่ยว หากความขัดแย้งในรัฐสภายังหาทางออกไม่ได้ ภาวะชะงักงันนี้อาจยืดเยื้อ และสร้างผลกระทบในวงกว้างต่อประชาคมโลก