ข่าวสารธุรกิจ

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เตือนเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญภาวะ “Perfect Storm” หรือมรสุมปัจจัยลบที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน ทั้งในและนอกประเทศ กดดันแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งหลังปี 2568 ให้ชะลอตัวลงชัดเจน

กกร.ประกอบด้วย สมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่า GDP ไทยปี 2568 จะเติบโตเพียง 1.5–2.0% โดยขึ้นอยู่กับผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐ หากเก็บภาษีนำเข้าจากไทยในอัตรา 10% คาด GDP จะอยู่ที่ 2.0% แต่หากเพิ่มเป็น 18% อาจฉุด GDP ลงเหลือเพียง 1.5%

จับมือรัฐวางมาตรการรับมือ

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า กกร.กำลังหารือร่วมกับหน่วยงานสำคัญของรัฐ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สภาพัฒน์, สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เพื่อจัดทำมาตรการระยะสั้นและระยะยาว ที่สามารถขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยให้ครอบคลุมตลอดซัพพลายเชน ทั้งในภาคการผลิต ภาคบริการ และภาคการเงิน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

ย้ำต้องปรับโครงสร้าง – ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

นายผยง ระบุว่า ประเทศไทยต้องเร่งปรับตัวและจัดลำดับความสำคัญในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการส่งเสริมการแข่งขันในเวทีโลก และจูงใจให้เกิดการลงทุนใหม่ให้ทันกับกติกาการค้าโลกยุคใหม่

“ทรัพยากรประเทศมีจำกัด หนี้สาธารณะสูง และเศรษฐกิจนอกระบบยังเป็นปัญหา การฟื้นเศรษฐกิจครั้งนี้ต้องเป็นรูปแบบใหม่ที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่ประคองให้อยู่รอด แต่ต้องเสริมความแข็งแกร่งให้แข่งขันได้” นายผยงกล่าว

วางแผน 6-12 เดือน หวังพลิกวิกฤตเป็นโอกาส

รายงานระบุว่า กกร.ได้ประชุมร่วมเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และเตรียมเสนอแนวทางต่อหน่วยงานเศรษฐกิจภาครัฐ โดยมุ่งเน้นมาตรการสำคัญในช่วง 6–12 เดือนข้างหน้า เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่น (Trust & Confidence) ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมยึดหลักนิติธรรม (Rule of Law) และการปกป้องภาคการผลิตและบริการภายในประเทศเป็นหัวใจสำคัญ


เศรษฐกิจ กกร. มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ