WEEKLY BRIEFING WORLD ECONOMIC UPDATE
ภาพรวม: ความเคลื่อนไหวสำคัญด้านเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ครอบคลุมทั้งไทย สหรัฐฯ และตลาดการเงินโลก — ตั้งแต่การค้าภายใต้ FTA ของไทยที่ขยายตัวดีขึ้น การปรับภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ค่าเงินบาทที่เคลื่อนไหวไม่แน่นอน ไปจนถึงราคาทองคำและน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น
ไทย
FTA หนุนการค้าไทยโตต่อเนื่อง – SCB EIC ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 68 เหลือ 1.8%
กรมการค้าต่างประเทศรายงานว่า การขอใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่ารวม 53,421.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.57% จากปีก่อน และคิดเป็น 81.59% ของมูลค่าการส่งออกที่ได้รับสิทธิทั้งหมด
อาเซียน–จีน ยังคงเป็นตลาดสำคัญ โดยสินค้าที่มีมูลค่าการขอใช้สิทธิสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ทุเรียน, ยานยนต์ขนส่งของ, ยางสังเคราะห์, แพลทินัมยังไม่ได้ขึ้นรูป และน้ำตาลจากอ้อย
ขณะเดียวกัน SCB EIC ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 2568 เหลือเพียง 1.8% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ค่าเงินบาทแข็งค่า และภาคท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นเต็มที่ ขณะที่ภาวะหนี้ครัวเรือนยังสูง กดดันการบริโภคภายในประเทศ
รายงานระบุว่า แม้ภาคส่งออกบางกลุ่มยังเป็นแรงหนุน แต่เศรษฐกิจโดยรวมของไทยยังเปราะบางจากความไม่แน่นอนทางการค้าและปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิภายใต้ FTA ยังคงช่วยพยุงเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหาร ยานยนต์ และเกษตรแปรรูป
สหรัฐอเมริกา
สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าเฟอร์นิเจอร์–ไม้แปรรูป สูงสุด 50% เริ่มบังคับใช้ 14 ต.ค. 68
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า ผลิตภัณฑ์ไม้และไม้แปรรูป 10% รวมถึง ตู้ครัว ตู้ล้างหน้า และเฟอร์นิเจอร์หุ้มผ้า 25% มีผลตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2568 และจะปรับขึ้นอีกในวันที่ 1 มกราคม 2569 เป็น 30% สำหรับเฟอร์นิเจอร์หุ้มผ้า และ 50% สำหรับตู้ครัว–ตู้ล้างหน้า
สินค้าจากสหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป (EU) ได้รับสิทธิ์ภาษีต่ำกว่า (10–15%) เนื่องจากมีข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ แล้ว
มาตรการดังกล่าวอาศัยอำนาจตาม มาตรา 232 แห่งกฎหมายขยายการค้า (Trade Expansion Act) เพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในประเทศ แต่ถูกคัดค้านจากภาคธุรกิจและผู้ประกอบการก่อสร้าง เพราะอาจทำให้ต้นทุนวัสดุก่อสร้างสูงขึ้นและซ้ำเติมเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์เตือนว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้อาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานเฟอร์นิเจอร์และไม้ในตลาดโลก โดยเฉพาะผู้ส่งออกในเอเชีย เช่น ไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ เป็นหลัก
ค่าเงินบาทและการเงิน
เงินบาทเคลื่อนไหวไม่แน่นอน จับตา Shutdown สหรัฐฯ – การประชุม กนง.
เงินบาทยังเคลื่อนไหวในทิศทางไม่แน่นอน นักลงทุนรอดูผลกระทบจาก US Government Shutdown ที่ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เช่น การจ้างงานและเงินเฟ้อ ถูกเลื่อนประกาศ ส่งผลให้ตลาดยังไม่ปรับคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed อย่างมีนัยสำคัญ
ระยะสั้น เงินบาทมีแนวโน้ม อ่อนค่าตามเงินเยน จากการเมืองญี่ปุ่นที่อาจได้ ซานาเอะ ทะไกอิชิ (Sanae Takaichi) เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
- อัตราเงินเฟ้อไทย เดือนกันยายน 2568
- ผลประชุม กนง. (8 ต.ค.)
- ราคาทองคำในตลาดโลก
- ทิศทางเงินทุนต่างชาติ
- การพิจารณางบประมาณของสภาคองเกรสสหรัฐฯ และบันทึกการประชุม Fed
ราคาทองคำ
ราคาทองคำโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 3,857.59 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.8% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ราคาทองคำแท่งของไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 58,850 บาท เพิ่มขึ้น 3.7% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย:
- WTI: 61.79 USD/BBL
- Brent: 65.80 USD/BBL