ข่าวสารธุรกิจ

“พิชัย” รื้อโครงสร้างเศรษฐกิจ ดันแพ็กเกจ 2 แสนล้าน เยียวยาผลกระทบภาษีทรัมป์

ซอฟต์โลน – อุดหนุนเงิน – คืนภาษี รับมือภาษีนำเข้า 36%

เจรจา 100 วันยังไร้ข้อสรุป

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเจรจากับสหรัฐฯ กรณีการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไทย 36% ยังไม่มีข้อยุติ แม้จะดำเนินมากว่า 100 วันแล้ว โดยจะครบเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค. 2568 นี้

  • สหรัฐฯ ถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญ (คิดเป็น 18% ของส่งออกทั้งหมด)

  • เศรษฐกิจไทยยังพึ่งพาการส่งออกสูงถึง 58-60%

  • จำเป็นต้องเจรจาอย่างรอบคอบ ไม่ให้กระทบความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้าอื่น


 3 แนวทางการเจรจาภาษีกับสหรัฐ

  1. เปิดตลาดให้สหรัฐมากขึ้น

    • ขยายสัดส่วนการนำเข้าสินค้าสหรัฐจาก 63% เป็น 69%

    • เพิ่มการนำเข้าสินค้าใหม่ เช่น ลำไย ปลานิล ราคาถูกในไทย ไม่กระทบผู้ผลิตในประเทศ

  2. ส่งเสริมการลงทุน-การค้าในสหรัฐ

    • สนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยไปลงทุนในสหรัฐ

    • นำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐมาแปรรูปเพื่อส่งออก

  3. เพิ่มสัดส่วน Local Content

    • สหรัฐเรียกร้องให้ไทยเพิ่มสัดส่วนวัตถุดิบภายในประเทศ (อาจสูงถึง 60-80%)

    • ไทยใช้ Local Content สูงกว่าหลายประเทศ เช่น เวียดนาม จึงอาจเจรจาได้เปรียบกว่า


 ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ – ลดพึ่งพาต่างประเทศ

  • เกษตรกรรม: ปรับพันธุ์พืช รับมือภัยแล้ง เพิ่มผลิตภาพ

  • ท่องเที่ยว: มุ่งสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ

  • ดิจิทัล: ผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล เพิ่มเทคโนโลยีในกระบวนการผลิต

  • อุตสาหกรรม: กระตุ้น Local Supply Chain เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ


 เปิดโมเดลเยียวยา 2 แสนล้าน

รัฐบาลเตรียม แพ็กเกจเยียวยาขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก:

  1. ซอฟต์โลน (Soft Loan)

    • วงเงินรวม 200,000 ล้านบาท

    • ดอกเบี้ยต่ำเพียง 0.01%

    • ช่วยเพิ่มสภาพคล่อง-ปรับเปลี่ยนธุรกิจในช่วงเปลี่ยนผ่าน

  2. เงินอุดหนุน/คืนภาษี

    • ให้เปล่าหรือคืนภาษีแก่ผู้ได้รับผลกระทบ

    • แบ่งจ่ายเป็นเฟส เช่น เฟสละ 20,000 ล้านบาท

    • พิจารณาตามข้อมูลที่ภาคเอกชน (กกร.) เสนอมายังรัฐบาล

“ไม่มีอะไรได้ 100% ทุกการเจรจาคือยาขม แต่จำเป็นต้องรักษาผลประโยชน์ชาติระยะยาว” — นายพิชัย


 มุมมองภาคเอกชน: ภาษี 36% กระทบหนัก

  • อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า

    • หากโดนภาษี 36% อาจทำให้ส่งออกหายไปถึง 50%

    • เสนอให้รัฐเจรจา FTA ใหม่ และออกมาตรการค้ำประกันซอฟต์โลน เช่น ให้ บสย. ค้ำประกัน

  • สิ่งทอ

    • เสนอให้นำเข้าฝ้ายจากสหรัฐแทนเพื่อนบ้าน

    • ผลิตภายใต้มาตรฐานสิ่งแวดล้อม-แรงงาน เพื่อขอลดภาษี

  • อาหารแปรรูป

    • ชง 7 มาตรการ เช่น ควบคุมค่าเงินบาท หนุนเทคโนโลยี ขยายตลาดใหม่ ลดดอกเบี้ย

  • เหล็ก

    • ขอให้รัฐเร่งใช้มาตรการ AD, CVD, SG ป้องกันสินค้าทะลักเข้าประเทศ

    • เสนอต่อรองให้ภาษีสินค้าสวมสิทธิหรือสินค้าทางผ่านอยู่ที่ 40% เท่าเวียดนาม


เป้าหมายใหม่: ดึงลงทุน – ยกระดับอุตสาหกรรมไทย

  • รัฐเตรียมงบกว่า 1 แสนล้านกระตุ้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (น้ำ-ไฟ)

  • ดึงบริษัทต่างชาติมาสร้าง Supply Chain ในไทย

  • ผลักดันเทคโนโลยี-นวัตกรรมไทยขึ้นมาสู่ระดับโลก


 สรุป:
การรับมือกับภาษีทรัมป์ 36% ไม่เพียงแค่การเจรจาทางการค้า แต่คือจุดเปลี่ยนในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยให้ “พึ่งพาตัวเอง” มากขึ้น แข็งแรงขึ้น และพร้อมสู้ในระยะยาว

 

พิชัย ชุณหวชิร ภาษีทรัมป์