ข่าวสารธุรกิจ

การเมืองป่วนเศรษฐกิจ! เอกชนวอนรัฐเร่งหาทางออก

สถานการณ์การเมืองไทยที่ยังคงผันผวนสร้างความกังวลให้แก่ภาคธุรกิจและนักลงทุนอย่างหนัก ภาคเอกชนระบุอย่างชัดเจนว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจลงทุน ซึ่งอาจทำให้โครงการลงทุนหลายโครงการต้องชะลอออกไปอย่างไม่มีกำหนด


การเมืองไม่เสถียร กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติหรือรอการเริ่มก่อสร้าง ซึ่งหลายรายอาจต้องชะลอออกไปหากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง

แม้ปัจจัยภายนอก เช่น การเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) 19% ของสหรัฐ ภายใต้การบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์จะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่ปัจจัยภายในคือ เสถียรภาพของรัฐบาล ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐต้องแก้ไข เพื่อไม่ให้ไทยเสียโอกาสในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน


คดีนายกฯ แพทองธารเพิ่มแรงสั่นสะเทือน

สถานการณ์ทางการเมืองตึงเครียดยิ่งขึ้น หลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของ ส.ว. 36 คน ให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธารสิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่

ศาลนัดให้ยื่นแถลงปิดคดีในวันที่ 27 ส.ค. และนัดแถลงด้วยวาจา-ลงมติในวันที่ 29 ส.ค. 2568 ซึ่งอาจส่งผลรุนแรงต่อเสถียรภาพทางการเมือง และย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจโดยตรง


โจทย์ใหญ่ 3 เรื่องรอรัฐบาลเร่งแก้ไข

  1. สินค้าจีนทะลักเข้าไทยและภูมิภาค
    การขยายเวลาเจรจาภาษีระหว่างสหรัฐและจีนออกไปอีก 90 วัน จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2568 ทำให้สินค้าจีนไหลเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ส่งผลให้การส่งออกของไทยไปตลาดหลักแห่งนี้ลดลง จาก 24-25% เหลือเพียง 21% ในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่สินค้าจีนไหลเข้าไทยเพิ่มขึ้นถึง 30%

  2. การส่งออกไปสหรัฐชะลอตัว
    คาดว่าการส่งออกในครึ่งปีหลังจะลดลง เนื่องจากสหรัฐมีการสต๊อกสินค้าไว้มากในช่วงครึ่งปีแรก

  3. การท่องเที่ยวซบเซา
    ตัวเลขนักท่องเที่ยวในครึ่งปีแรกของไทยลดลงเกือบ 6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งมาตรการกระตุ้นและหาตลาดใหม่ ๆ ในช่วง High Season ครึ่งปีหลัง


ภาคเอกชนเรียกร้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ

นายเกรียงไกรกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังร่างพระราชบัญญัติงบประมาณผ่านแล้ว รัฐบาลต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันเวลา พร้อมหามาตรการเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสอดรับกับการลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการลงทุนได้

ขณะเดียวกัน การเจรจาการค้าก็สำคัญ โดยเฉพาะเรื่อง กฎเกณฑ์ถิ่นกำเนิดสินค้า (Rules of Origin) ที่สหรัฐต้องการปรับสัดส่วนจาก 40% เป็น 60% ซึ่งต้องพิจารณาความสามารถในการปรับตัวของแต่ละอุตสาหกรรมให้รอบคอบ


สรท.กังวลการเมืองยืดเยื้อ ฉุดเชื่อมั่นหนัก

นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองไทยมีความผันผวนสูง หากเทียบกับประเทศอาเซียนและเอเชีย ผู้นำไทยในปัจจุบันไม่มีอำนาจในการบริหารจัดการบ้านเมือง ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และปัญหาปากท้องประชาชน ทำให้ความเชื่อมั่นด้านการค้า การลงทุน และธุรกิจตกต่ำลงอย่างมาก

“วันนี้ภาคธุรกิจต้องการให้ปัญหาการเมืองนิ่งและเรียบร้อย โดยยิ่งเร็วยิ่งดีกับภาคธุรกิจ เพราะหากปล่อยให้ยืดเยื้อต่อไปจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศอย่างหนัก นักลงทุนไม่อยากลงทุนเพิ่ม ประชาชนก็หมดหวังกับรัฐบาล” นายธนากรกล่าว

เขาย้ำว่า หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ ภาคธุรกิจต้องดูแลตัวเอง ปรับองค์กร ลดต้นทุน เพื่อความอยู่รอด เพราะยากที่จะหวังพึ่งภาครัฐในภาวะการเมืองเช่นนี้