กระทรวงการคลังเตรียมเดินหน้ามาตรการครั้งใหญ่ เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา “แพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ-ซอฟต์โลนช่วยธุรกิจ-โครงการแก้หนี้ประชาชน” ในการประชุมวันที่ 24 มิถุนายนนี้ หวังเร่งเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ รับมือภาวะเศรษฐกิจผันผวนและผลกระทบจากสงครามการค้า
1. แพ็กเกจเศรษฐกิจใหม่ 1.57 แสนล้านบาท – จากดิจิทัลวอลเลตสู่การลงทุนด่วน
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเผยว่า หนึ่งในมาตรการสำคัญที่จะเสนอ คือการปรับแผนงบประมาณจากโครงการ “ดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท” มาสู่แผนกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ โดยใช้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท เร่งผลักดันการลงทุนที่ให้ผลเร็ว เพื่อกระจายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในทันที ตอบโจทย์ภาวะเศรษฐกิจซบเซา
2. ซอฟต์โลนกว่า 1.2 แสนล้านบาท – บรรเทาผลกระทบสงครามการค้า
พร้อมกันนี้ รัฐยังเตรียมมาตรการสนับสนุนทางการเงินผ่าน สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ รวมวงเงิน ไม่ต่ำกว่า 1.2 แสนล้านบาท เช่น
ซอฟต์โลนจากธนาคารออมสิน 1 แสนล้านบาท
สินเชื่อเสริมสภาพคล่องจากธนาคารของรัฐอื่น ๆ
กลุ่มเป้าหมายที่รัฐต้องการช่วยเหลือ ได้แก่
ผู้ส่งออก
ธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน (ซัพพลายเชน)
เอสเอ็มอีที่เผชิญสินค้าจีนทะลัก
ธุรกิจท่องเที่ยวและซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง
มาตรการนี้จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากนโยบายภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และรองรับความผันผวนจากสงครามการค้าโลก
3. “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 – ขยายความช่วยเหลือหนี้ครัวเรือน
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังเตรียมเสนอขยายโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 หลังเฟสแรกจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดยมีการ ปรับเงื่อนไขเพื่อขยายโอกาสให้เข้าร่วมได้ง่ายขึ้น เช่น
จากเดิมที่กำหนดให้ลูกหนี้ต้องค้างชำระ ตั้งแต่ 30 วันขึ้นไป
เปลี่ยนเป็น สามารถเข้าร่วมได้แม้ค้างชำระเพียง 1 วัน
นับเป็นความพยายามของภาครัฐในการบรรเทาภาระหนี้ให้ประชาชน และลดโอกาสที่หนี้จะกลายเป็นหนี้เสียในระบบ