ข่าวสารธุรกิจ

ส่งออกไทยเม.ย. 68 โต 10.2% ต่อเนื่อง 10 เดือน เศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าเจรจาสหรัฐ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลการส่งออกของไทยในเดือนเมษายน 2568 ว่ามีมูลค่ารวม 25,625.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 10.2% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหากตัดสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัยออก การส่งออกยังเติบโต 7.1% โดยกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและเกษตรเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของภาพรวมนี้

ตลาดส่งออกสำคัญของไทยยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น อาเซียน และสหภาพยุโรป ส่งผลให้ภาพรวม 4 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกขยายตัว 14.0% และหากไม่รวมสินค้าน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย จะมีการขยายตัวที่ 12.1%

“การเติบโตของการส่งออกที่ต่อเนื่องสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย แม้จะมีความกังวลเรื่องมาตรการภาษีของสหรัฐ แต่ภาพรวมยังเติบโตดี โดยเฉพาะตลาดสหรัฐที่ขยายตัวถึง 23.8% ต่อเนื่อง 19 เดือน” นายพิชัยกล่าว

พิชัย นริพทะพันธุ์

นอกจากนี้ ตลาดสำคัญอื่น ๆ ก็มีการเติบโต เช่น อาเซียนโต 7.8% ต่อเนื่อง 2 เดือน เอเชียใต้โต 8.7% ต่อเนื่อง 7 เดือน สหภาพยุโรปโต 6.1% ต่อเนื่อง 11 เดือน ญี่ปุ่นโต 5.5% ต่อเนื่อง 2 เดือน และจีนโต 3.2% ต่อเนื่อง 7 เดือน

ทางกระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพยุโรป คาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยมีแผนพบกรรมาธิการยุโรปด้านการค้าเพื่อเร่งรัดกระบวนการ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพการค้าของไทยในยุโรปอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน การส่งออกยังคงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

สำหรับภาพรวมการส่งออกในช่วง 8 เดือนที่เหลือของปี 2568 หากสามารถรักษาอัตราส่งออกเฉลี่ยที่ 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน จะช่วยให้การส่งออกในปีนี้ขยายตัวมากกว่า 4% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์เดิม และหากสามารถเจรจากับสหรัฐสำเร็จ ทำให้ไทยได้รับอัตราภาษีในระดับเดียวกับประเทศอื่น จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของไทยได้มากขึ้น

ขณะนี้การเจรจากับสหรัฐมีความคืบหน้าอย่างมาก คาดว่าจะสรุปผลภายใน 90 วัน กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่านโยบายส่งออกในปัจจุบันจะนำพาเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การส่งออกเดือนเมษายนมีมูลค่า 25,625.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 10.2% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่ผ่านมา ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 28,946.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 16.1% ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 3,321.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

ภาพรวม 4 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกมีมูลค่า 107,157.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 14.0% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 109,397.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9.6% ทำให้ไทยขาดดุลการค้า 2,240.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในส่วนของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร พบว่าหดตัว 8.4% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยสินค้าเกษตรหดตัว 19.6% ต่อเนื่อง 4 เดือน ขณะที่อุตสาหกรรมเกษตรกลับมาขยายตัว 9.1% หลังจากหดตัวในเดือนก่อน สินค้าสำคัญที่เติบโตได้แก่ ยางพารา ไก่สดและแช่เย็น น้ำตาลทราย อาหารสัตว์เลี้ยง เป็นต้น ส่วนสินค้าที่หดตัว ได้แก่ ผลไม้สดและแช่เย็น ข้าว อาหารทะเลกระป๋อง และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ทำให้ภาพรวม 4 เดือนแรก สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 2.3%

 

ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 16.6% ต่อเนื่อง 13 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง แผงวงจรไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า ส่วนสินค้าที่หดตัว เช่น รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกล เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ เหล็ก และผลิตภัณฑ์เหล็ก โดยภาพรวมสินค้าอุตสาหกรรม 4 เดือนแรกขยายตัว 18.7%

สำหรับแนวโน้มครึ่งหลังของปี 2568 ไทยยังต้องเผชิญความเสี่ยงจากภาษีนำเข้าของสหรัฐที่อาจถูกเรียกเก็บหลังหมดช่วงยกเว้น 90 วัน กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ประชุมหารือเพื่อเตรียมแผนรับมือ ทั้งในด้านการเจรจา การพัฒนาสินค้ามูลค่าสูง และการเปิดตลาดใหม่ พร้อมมาตรการป้องกันเชิงรับ เช่น ป้องกันการสวมสิทธิส่งออก ป้องกันการลักลอบนำเข้า และเฝ้าระวังการเบี่ยงเบนทางการค้า เพื่อรักษาเสถียรภาพและผลักดันการส่งออกไทยให้บรรลุเป้าหมายแม้ในสภาวะที่ท้าทาย

ข้อมูลจาก prachachat.net