อุทกภัยภาคใต้ รายได้เดือนสุดท้ายปี 68 วูบ 3 หมื่นล้าน, เศรษฐกิจหดตัว 0.2%

ข่าวสารธุรกิจ

อุทกภัยภาคใต้ รายได้เดือนสุดท้ายปี 68 วูบ 3 หมื่นล้าน, เศรษฐกิจหดตัว 0.2%

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ชี้อุทกภัยภาคใต้เป็น "สาธารณภัยร้ายแรงระดับ 4" กระทบหนักทั้งครัวเรือนและธุรกิจ ประเมินความเสียหายต่อรายได้ในเดือนธันวาคม 2568 สูงถึง 2-3 หมื่นล้านบาท ฉุด GDP ปีนี้เหลือเพียง 2.0% พร้อมเตือนผลกระทบต่อเนื่องในปี 2569 อาจสูงถึง 9 หมื่นล้านบาท

ผลกระทบเศรษฐกิจ: ตัวเลขเสียหายชัดเจน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กกร. ว่า อุทกภัยในภาคใต้ได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของประชาชนและผู้ประกอบการ โดยในบางพื้นที่จัดเป็นสาธารณภัยร้ายแรงอย่างยิ่งใน ระดับ 4 ซึ่งเทียบเคียงได้กับเหตุการณ์สึนามิในปี 2547 ที่สร้างความเสียหายนับแสนล้านบาทและต้องใช้การซ่อมแซมฟื้นฟูครั้งใหญ่

เฉพาะเดือนธันวาคม 2568 กกร. ประเมินการสูญเสียรายได้อยู่ที่ประมาณ 20,000 - 30,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลกระทบต่อ GDP ของประเทศราว 0.1% ถึง 0.2% ส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยตลอดปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวได้เพียง 2.0% เท่านั้น

นอกจากนี้ กกร. ยังประเมินผลกระทบต่อเนื่องในปี 2569 โดยคาดการณ์ความเสียหายต่อรายได้สูงถึงประมาณ 90,000 ล้านบาท ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นในการวางแผนรับมือระยะยาว


แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2569 และการรับมือ
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2569 กกร. คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวที่ชะลอลงมาอยู่ที่ 1.6% ถึง 2.0% ปัจจัยกดดันมาจากการที่มาตรการภาษีการผลิตของสหรัฐฯ ยังไม่มีความแน่นอน รวมถึงการแข่งขันจากสินค้านำเข้าที่รุนแรงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการผลิต การจ้างงาน และกำลังซื้อภายในประเทศ

ดังนั้น กกร. เน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาระยะสั้นโดยเฉพาะการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยต้องทำควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจผ่านโครงการ "Reinvent Thailand" เพื่อยกระดับศักยภาพทางธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่งตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)

หลักคิดสำคัญคือ "พี่ช่วยน้อง" รวมถึงการส่งเสริมการใช้ Local content และสินค้า Made in Thailand ผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น:

  • มาตรการภาษี

  • การสนับสนุนเงินทุน

  • การให้แต้มต่อในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการสนับสนุนล่าสุดของรัฐบาลที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบมาตรการ Quick Big Win เพื่อ SMEs ไทย

กกร. เร่งให้ความช่วยเหลือและเสนอวาระแห่งชาติ

กกร. ตระหนักถึงความเดือดร้อนอย่างกว้างขวางของผู้ประสบอุทกภัย จึงเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ครอบคลุมหลายมิติ ดังนี้:

  • การบรรเทาเบื้องต้น: ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ และให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่

  • การลดภาระ: มาตรการลดภาระทางการเงินให้กับประชาชนและผู้ประกอบกิจการ

  • การฟื้นฟู: มาตรการฟื้นฟูที่อยู่อาศัย โรงงาน และสถานประกอบการให้กลับมาดำเนินการได้โดยเร็ว

ทั้งนี้ สมาชิกของ กกร. ได้ระดมความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง:

  • สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก บริจาคเงินช่วยเหลือผ่านสภากาชาดไทย 50 ล้านบาท ซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย

  • สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มอบเงินบริจาคและสิ่งของมูลค่า 7.8 ล้านบาท

  • ส.อ.ท. ดำเนินโครงการ "พี่ช่วยน้องอุตสาหกรรมไทย" เพื่อฟื้นฟูโรงงานที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ทั้งการส่งผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาซ่อมแซมเครื่องจักร, การรับบริจาคอุปกรณ์, และการมอบส่วนลดสินค้าราคาพิเศษ

ท้ายที่สุด กกร. ได้เสนอให้การบริหารจัดการภัยพิบัติเป็น วาระแห่งชาติ เพื่อวางแนวทางป้องกันและรับมือภัยพิบัติอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้งมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว