ข่าวสารธุรกิจ

ไทยสูญ 8 พันล้าน! ทรัมป์ขึ้นภาษี เอกชนขอเร่งเจรจา FTA

ไทยเตรียมรับมือผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ คาดเสียหายถึง 8 พันล้านดอลลาร์

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้เผยว่า รัฐบาลไทยได้ร่วมมือกับภาคเอกชนและหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพลังงาน และสภาหอการค้าไทย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสินค้าอุตสาหกรรมและเกษตรจากไทย โดยเฉพาะในกรณีที่สหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการภาษีใหม่ที่มีผลบังคับใช้แล้ว

 

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์


ผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ

รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศใช้มาตรการภาษีเพิ่มขึ้นในหลายด้าน เช่น การขึ้นภาษีรายสินค้าและรายประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศต่างๆ รวมถึงไทย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ เช่น เหล็กและอลูมิเนียม ที่ภาษีเพิ่มขึ้นจาก 0-12.5% เป็น 25% นอกจากนี้สินค้าที่ได้รับผลกระทบยังรวมถึงยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งภาษีจะเพิ่มขึ้นจาก 0-4.9% เป็น 25% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2568 เป็นต้นไป
ผลกระทบจากการขึ้นภาษีครั้งนี้คาดว่าจะทำให้ไทยสูญเสียรายได้จากการส่งออกไปยังสหรัฐฯ สูงถึง 7,000-8,000 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม เช่น ข้าว กุ้งแปรรูป ยางล้อรถยนต์ และชิ้นส่วนรถยนต์

แผนรับมือและการเจรจากับสหรัฐฯ

เพื่อแก้ไขปัญหานี้ คณะทำงานของรัฐบาลไทยได้เตรียมแผนเจรจาเชิงรุกกับสหรัฐฯ โดยหวังว่าจะสามารถลดผลกระทบจากการขึ้นภาษีได้ ด้วยการพิจารณาปรับลดภาษีสินค้าเกษตรบางชนิด เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และถั่วเหลือง รวมถึงการเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพื่อลดการขาดดุลการค้า ซึ่งในปัจจุบันการขาดดุลการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 30,000-40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีแนวคิดที่จะเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและพลังงาน ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในไทยและสหรัฐฯ

ภาคเอกชนเตรียมแผนรับมือ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่สินค้าจากจีนอาจเข้ามาสวมสิทธิ์สินค้าไทย เพื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ ซึ่งจะเพิ่มความตึงเครียดในการค้าและการส่งออกระหว่างไทยและสหรัฐฯ โดยเฉพาะในกรณีที่การส่งออกไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา อาจมีสาเหตุจากการนำเข้าก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้


 
   นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.)

การปรับโครงสร้างและการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA)

หอการค้าไทยได้เสนอให้รัฐบาลพิจารณาปรับปรุงกลไกการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) โดยเฉพาะการเจรจา FTA ไทย-สหรัฐฯ และ FTA ไทย-ยุโรป เพื่อช่วยลดความกดดันจากการขึ้นภาษีจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังเสนอให้รัฐบาลเพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากสหรัฐฯ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และถั่วเหลือง ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อภาคการเกษตรในประเทศ

หอการค้าไทยยังเตือนว่า มาตรการภาษีจากสหรัฐฯ อาจทำให้ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง และไทยต้องเร่งเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ เช่น ไทย-อียู และ ไทย-แคนาดา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในอนาคต

บทสรุป

การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการค้าของไทยอย่างชัดเจน โดยภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันหาทางออก เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ โดยการปรับลดภาษีสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ การเพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากสหรัฐฯ รวมถึงการเจรจาความตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ เป็นแนวทางที่สำคัญในการรับมือกับสถานการณ์นี้

ภาษีสินค้าไทย, การขึ้นภาษีของทรัมป์, ข้าว กุ้งแปรรูป, สินค้าจีน, ภาคการเกษตรไทย, การค้าไทย-สหรัฐ, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์, ถั่วเหลือง, การเจรจา FTA, การส่งออกไทย, สินค้าสหรัฐฯ