นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าทีมเจรจาฝ่ายไทย เปิดเผยว่า การหารือครั้งนี้เริ่มต้นเวลา 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเป็นการพูดคุยเบื้องต้นกับผู้ช่วยผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เพื่อทำความเข้าใจในข้อเสนอของฝ่ายอเมริกันที่เพิ่งส่งเข้ามาเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา
ข้อเสนอจากสหรัฐฯ ที่ส่งให้ไทยพิจารณานั้นประกอบด้วย 5 หัวข้อสำคัญ ได้แก่:
มาตรการทางภาษีและโควตา (Tariffs & Quotas) – ครอบคลุมข้อเรียกร้องให้ไทยพิจารณาลดกำแพงภาษีในสินค้าที่สหรัฐฯ ให้ความสนใจ รวมถึงเปิดตลาดในบางกลุ่มสินค้าเพิ่มเติม
มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (NTB) – เช่น ข้อกำหนดทางกฎหมาย มาตรฐานสินค้า และระบบอนุญาตนำเข้าสินค้าที่สหรัฐฯ มองว่าเป็นอุปสรรค
การค้าดิจิทัล (Digital Trade) – การเข้าถึงตลาดดิจิทัล ข้อมูลข้ามพรมแดน และภาษีบริการออนไลน์
แหล่งกำเนิดสินค้า (Rules of Origin) – การชี้แจงและปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อให้สหรัฐฯ มั่นใจว่าสินค้าไทยมีแหล่งกำเนิดชัดเจน
ความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติ (Economic & National Security) – สหรัฐฯ ยกประเด็นนโยบายความมั่นคงของตนเป็นส่วนหนึ่งในการเจรจา เพื่อคงอำนาจต่อรองในการกำหนดนโยบายภาษี
ภายหลังจากการรับฟังข้อเสนอของสหรัฐฯ ฝ่ายไทยอยู่ระหว่างการจัดทำข้อเสนอของตนเอง ซึ่งจะส่งให้สหรัฐฯ ภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2568 โดยจะมีความยาวประมาณ 3–4 หน้ากระดาษ A4 ขยายจากกรอบการเจรจาเดิมที่มีเพียง 1 หน้าเท่านั้น
ปลัดพาณิชย์ยืนยันว่า ข้อเสนอของไทยจะครอบคลุมทั้งมาตรการลดภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการ รวมถึงแสดงความพร้อมในการสั่งซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ เช่น เครื่องบินโบอิ้ง อาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงการปรับมาตรการ NTB บางประการ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการค้า
“เรามั่นใจว่าข้อเสนอของไทยจะส่งผลเชิงบวก ไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบ และเป็นโอกาสในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่การเปิดเสรีบางตลาดหรือความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ” นายวุฒิไกร กล่าว
การเจรจาครั้งนี้มีหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมอย่างครบถ้วน ได้แก่ กระทรวงการคลัง การเกษตรฯ การต่างประเทศ อุตสาหกรรม พลังงาน ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงแรงงาน สะท้อนถึงความสำคัญระดับประเทศของการเจรจาครั้งนี้
หลังจากไทยยื่นข้อเสนอในวันที่ 20 มิถุนายน ฝ่ายสหรัฐฯ จะพิจารณาและนัดหารือรอบถัดไป ทั้งนี้ กรอบเวลาการเจรจาที่ตกลงไว้ระหว่างสองฝ่ายคือ 90 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 8 กรกฎาคม 2568
หากยังไม่สามารถตกลงกันได้ภายในกรอบเวลาดังกล่าว มีความเป็นไปได้ว่าสหรัฐฯ อาจขยายเวลาออกไป เพื่อเปิดโอกาสให้มีการหารือเชิงลึกเพิ่มเติม โดยฝ่ายไทยตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถเจรจาให้อัตราภาษีนำเข้าในสินค้าที่สำคัญอยู่ในระดับที่ “ไม่เกิน 10%” ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก
เจรจาภาษี ไทยสหรัฐ กระทรวงพาณิชย์ การค้าระหว่างประเทศ ภาษีนำเข้า โครงสร้างเศรษฐกิจ