กกร.ชู 3 แนวทาง “ฟื้นเศรษฐกิจ–สู้บาทแข็ง–ล้างระบบทุจริต” หนุนรัฐเร่งปฏิรูปเชิงโครงสร้าง

สามผู้นำภาคเอกชน ได้แก่ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และนายเกรียงไกร เชียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมเสวนาในหัวข้อ “พลิกเกมรู้เศรษฐกิจโลกป่วน” โดยในนาม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้เสนอแนวทางเร่งด่วนเพื่อปลดล็อกข้อจำกัดเชิงโครงสร้างและทรานส์ฟอร์มเศรษฐกิจไทย
หอการค้าไทย: GDP ปี 2568 โต 1.8–2.2% มีลุ้นดีกว่าคาดหากส่งออกขยาย 5%
กกร.ประเมิน GDP ปี 2568 โตในกรอบ 1.8–2.2% โดยคาดการส่งออกขยาย 2–2.5% และเงินเฟ้อทั่วไปที่ 0.5% อย่างไรก็ตาม สัญญาณล่าสุดชี้ว่า การส่งออกอาจโตถึง 5% หากเป็นจริงจะหนุนจีดีพีปลายปีให้ดีขึ้น โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการจะประเมินอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน
ความเชื่อมั่นปี 2569: รัฐบาลทำงานเต็มรูปแบบ–ทีมเศรษฐกิจร่วมมือเอกชน
หอการค้าไทยเชื่อว่า การมีรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมายและทำงานเต็มที่ รวมถึงการเปิดรับผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก จะเป็นแรงผลักสำคัญให้เศรษฐกิจฟื้นตัวดีกว่าช่วงรัฐบาลรักษาการ พร้อมขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่รับฟังภาคเอกชนและออกมาตรการสั้นที่ตรงจุด
เดินหน้าเจรจาการค้า: สหรัฐฯ–สหภาพยุโรป
การเจรจากับ สหรัฐฯ ใกล้เสร็จสิ้น หากมีการลงนาม MOA จะช่วยให้การส่งออกไทยฟื้นใกล้ปกติ โดยเฉพาะเมื่อกำหนดสัดส่วน RVC (Regional Value Content) ชัดเจน
ด้าน FTA ไทย–สหภาพยุโรป คาดจบปลายปี 2568 หรือต้นปี 2569 แต่ขั้นตอนให้สัตยาบันของสมาชิกอียูอาจใช้เวลา และหากไทยยุบสภาตามโรดแม็ปการเมืองอาจกระทบไทม์ไลน์ อย่างไรก็ดี หาก FTA สำเร็จจะช่วยฟื้นการส่งออกตามเป้า
เร่งรัดเบิกจ่าย–ปลดล็อกกฎหมายล้าสมัย และเติมสภาพคล่องฐานราก
กกร.ขอให้รัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานและการจ้างงานภูมิภาค ควบคู่กับการ ปลดล็อก (Unlock) กฎหมาย/ระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า-ลงทุน-นวัตกรรม และ ทรานส์ฟอร์ม (Transform) โครงสร้างเศรษฐกิจ รับเทคโนโลยี AI–พลังงาน–การค้าโลก พร้อมเร่งเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ประชาชนและธุรกิจฐานราก
กกร.เสนอให้พรรคการเมืองประกาศนโยบาย Zero Corruption เป็นวาระแห่งชาติ เชื่อว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนสูงและช่วยยกระดับความเชื่อมั่นนักลงทุน
ส.อ.ท.: เศรษฐกิจครึ่งปีหลังชะลอ ชู “4 GO” ยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรม
ครึ่งปีแรก 2568 โตเฉลี่ย ~3% (ไตรมาส 1 = 3.2%, ไตรมาส 2 = 2.8%) แต่ครึ่งหลังอ่อนลง (ไตรมาส 3 ~ 1.7%, ไตรมาส 4 ~ 0.3%) ทำให้ทั้งปีอยู่ในกรอบ 1.8–2.2%. รายได้ท่องเที่ยวต่างชาติ 9 เดือน ~1.1 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้า >7% ค่าเงินบาทแข็งทำให้ไทยเสียความสามารถแข่งขันเมื่อเทียบคู่แข่ง
- GO Digital & AI – เร่งใช้เทคโนโลยี/AI และ Upskill–Reskill
- GO Innovation – สร้างนวัตกรรม ปรับโมเดลธุรกิจ ลดพึ่งพาแรงงานราคาถูก
- GO Global – ขยายตลาดใหม่ เร่งเจรจา FTA
- GO Green – เดินหน้ามาตรฐานสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้า Carbon Neutrality 2050
หลังผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่เข้ารับตำแหน่ง ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนลงบางส่วนจากระดับแข็งค่าเดิม ถือเป็นทิศทางที่ดีขึ้น
สมาคมธนาคารไทย: ตั้งหลักความเชื่อมั่นไตรมาส 4 และขับเคลื่อนด้วยข้อมูล–ความโปร่งใส
ไตรมาส 4/2568 เป็นจุดตั้งต้นความเชื่อมั่นของประเทศ ขณะที่ข้อมูล IMF ชี้ไทยมีแนวโน้มโตเฉลี่ย 2.7% ใน 5 ปีข้างหน้า ต่ำกว่าอาเซียนเฉลี่ย 4.5% สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้าง การลงทุนในประเทศต่ำ สภาพคล่องส่วนเกินในระบบธนาคารกว่า 5 ล้านล้านบาท ไม่ไหลสู่เศรษฐกิจจริง และเงินทุนไหลออกผ่านกองทุน FIF
แนวทางเร่งด่วน 2 ด้าน: (1) ยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (2) พัฒนาเศรษฐกิจบนฐานความยั่งยืน ลดการปล่อยคาร์บอนและใช้ทรัพยากรอย่างเป็นธรรม
- ดัชนีเศรษฐกิจนอกระบบ (Informal Economy Index)
- ดัชนีหนี้นอกระบบ (Informal Debt Index)
- ดัชนีคอร์รัปชัน (Corruption Index)
เพื่อให้การถกเถียงเชิงนโยบายยึดข้อเท็จจริง นำไปสู่ฉันทามติ 70–80% และการปรับปรุงกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ บนหลักนิติธรรม
สรุป
สัญญาณจาก กกร. ชี้ชัดว่าไทยต้อง “ปลดล็อก–ทรานส์ฟอร์ม” เศรษฐกิจอย่างจริงจัง ควบคู่การปราบคอร์รัปชันและยกระดับธรรมาภิบาล เพื่อเสริมความสามารถแข่งขันในยุค AI–พลังงาน–การค้าโลกใหม่ พร้อมเดินหน้าข้อตกลงการค้าระดับยุทธศาสตร์ และเร่งฟื้นท่องเที่ยวให้กลับมาหนุนเศรษฐกิจโดยรวม