เศรษฐกิจไทยพ.ย. 67 ขยายตัวต่อเนื่อง ส่งออก-ท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว พร้อมแจกเงินเฟส 1 ช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย
สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤศจิกายน 2567 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากหลายด้าน โดยเฉพาะจากการขยายตัวของการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงปลายปี
ส่งออกขยายตัว 8.2% จากสินค้าหลักและตลาดคู่ค้า
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าในเดือนพฤศจิกายน 2567 มีมูลค่า 2.56 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะในหมวดสินค้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องปรับอากาศ และเครื่องจักรกล ที่มีการเติบโตอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีการส่งออกสินค้าหลายประเภท เช่น ผลไม้ อาหารสัตว์เลี้ยง และยางพารา ที่มีการเติบโตดี รวมถึงตลาดคู่ค้าหลักของไทยอย่าง อินเดีย อินโดจีน จีน และสหรัฐฯ ก็มีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
การท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเสริมเศรษฐกิจไทยในเดือนพฤศจิกายน คือ การท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยือนถึง 3.15 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 19.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงมาจากประเทศจีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของการท่องเที่ยวไทย
รูปภาพจาก กองนโยบายเศรษฐกิจมหาภาค
การกระตุ้นจากโครงการแจกเงินเฟส 1
นอกจากนี้ นายพรชัยยังกล่าวถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภาคประชาชน ผ่านโครงการแจกเงินเฟส 1 ที่รัฐบาลได้เริ่มดำเนินการแล้ว โดยเป็นการแจกเงินให้กับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ซึ่งมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของภาคประชาชน
การฟื้นตัวของภาคการผลิตและการบริโภค
จากการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนพฤศจิกายน 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 56.9 จาก 56.0 ในเดือนก่อน ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนก็มีสัญญาณฟื้นตัว โดยเฉพาะจากการขยายตัวของภาษีมูลค่าเพิ่มและการเติบโตในภาคบริการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม เช่น ปัญหาอุทกภัยในภาคใต้ ซึ่งอาจกระทบต่อภาคการเกษตรและการผลิต รวมถึงภาคอุตสาหกรรมที่มีดัชนีผลผลิตลดลงจากปีก่อน
ภาพรวมเศรษฐกิจยังมั่นคง
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือนพฤศจิกายน 2567 ถือว่ายังคงมั่นคง โดยมีอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.95% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 0.80% ซึ่งสะท้อนถึงเสถียรภาพของเศรษฐกิจ ขณะที่หนี้สาธารณะยังอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ และมีทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูงถึง 2.37 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้
โดยรวมแล้ว แม้จะมีบางปัจจัยที่ท้าทาย แต่การขยายตัวของการส่งออกและท่องเที่ยว รวมถึงการกระตุ้นจากโครงการแจกเงินเฟส 1 ก็ยังช่วยให้เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤศจิกายน 2567 เติบโตต่อเนื่อง และน่าจะสามารถรักษาแนวโน้มการฟื้นตัวในปีถัดไปได้
ย้อนกลับ
